Saturday, April 28, 2012

วิศวบริการ 23

วันนี้ได้กลับมาเยี่ยมโครงการวิศวบริการ 23
จัดโดยชุมนุมวิชาการ คณะวิศวกรรมศาสตร์ ม.เกษตรบางเขน
สถานที่จัดก็คือภายใน ม.เกษตร บางเขนนี่ละ
จัดการเรียนการสอนใน 3 วิชาคือ Math, Physics, Chem
ให้กับนักเรียนม.ปลายจากทั่วประเทศเลย

ปีนี้เราเป็นรุ่นพี่แล้ว
กลับมาเยี่ยมโครงการเพราะว่าโครงการนี้ไม่ได้มีโอกาสมาสอน
เพราะว่าติดฝึกงานนี้เอง

วันนี้เป็นวันที่พี่ๆเค้านัดกันเพื่อมาเยี่ยมโครงการด้วย
"พี่ๆ" ในที่นี้คือ พี่ๆชุมนุมวิชาการ ที่จบๆกันไปแล้ว
วันนี้ได้อะไรเยอะมากๆ
มีความสุขมากๆด้วย

พอเรามาถึงม. ก็ปรี่เข้าไปที่ห้องชุมนุม
เจอเพื่อนๆที่เป็นทีมทำงานในรุ่นเดียวกับเรา
ซึ่งตอนนี้ก็ต้องอยู่ในฐานะทีมเคยทำงานไปซะแล้ว
พูดให้ดูดีหน่อยก็เป็นที่ปรึกษานั่นเอง ^^

ที่มันปลื้มก็คือ
เราได้กลับมาเห็นโครงการ
ซึ่งมันทำไมเหรอ?
คำตอบก็คือ
ซึ่งมันยังคงมีอยู่ ยังไม่หายไปไหน ยังคงรักกัน ยังคงปรารถนาดี ยังคงไม่หวังอะไรตอบแทน
เพราะว่า เรารู้ดีว่า กว่าจะมาเป็นวิศวบริการได้ มันเหนื่อยขนาดไหน
กล้าบอกได้เลยว่าตั้งแต่ทำกิจกรรมมา ก็ไม่น้อย
จัดวิศวบริการนี่เป็นบทบาที่เราเหนื่อยที่สุดแล้ว
ต้องติดต่อฝั่งราชการ คือมหาลัย ไม่ว่าจะเป็นอาคารสถานที่ เชิญคณบดี ไปจนถึงเรื่องขอ xerox 
ต้องติดต่อโรงเรียนทั่วประเทศ เป็นพันโรง
ต้องติดต่อผู้ปกครอง ครู นักเรียน
แล้วก็ต้องเตรียมการสอนด้วยนะ
เหนื่อยมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
แต่ก็ยังจัด
เพราะอะไรนะ?
ยังหาคำตอบที่ตรงกับใจอยากจะพูดออกมาไม่ได้สักที
ทั้งๆที่เหนื่อยก็เหนื่อย เครียดก็เครียด
ปัญหาเยอะแยะ เวลาเล่นก็ลด เวลาเรียนก็ลด
เพื่อนๆตั้งหลายคนก็บอกให้ออกมาสิ
แต่ก็ยังคงจัดจนได้
ซึ่งเรารู้ดีว่า
รุ่นน้องก็ต้องเหนื่อยอย่างนี้เหมือนกัน
ยังไงก็ต้องเหนื่อย
คนที่จัดโครงการแล้วบอกว่าไม่เหนื่อย
เราว่าคือคนที่ไม่ค่อยได้เข้ามาทำจริงๆ

วันนี้ได้เห็นรุ่นน้องจัดโครงการ
แอบเดินเข้าไปดูในห้อง 0410 ที่ตึกชูชาติ กำภู
ก่อนเข้าห้องเจอบอร์ดที่ให้น้องๆโครงการมาเขียนความรู้สึดจากการทำข้อสอบ quiz


เห็นแล้วน่ารักดี ^^ อาจจะเพิ่งติด เพราะว่าเพิ่งจะ quiz ไปเมื่อวาน เลยโล่งๆอยู่
อ่านแล้วก็ขำ บางคนก็ว่ายาก บางคนก็ว่าง่าย
แต่ชอบอันนี้ อ่านแล้วอยากเดินไปถามน้องคนเขียน


ว่ามันยากขนาดพระเจ้ายังต้องจอดเลยเหรอน้อง ^^

พอเข้าไปในห้องก็เจอน้องๆกำลังเรียนเคมีกันอยู่


สอนโดยน้องไอซ์ ซึ่งเป็นน้องรุ่นทีมทำงานนี่เอง :>
ชอบตรงที่ว่า ตอนน้องเค้าสอน พอเหลือเวลาก็เล่าเรื่องให้น้องๆฟัง
เป็นเรื่องที่ฟังสนุกแต่ว่ามีข้อคิด
ข้อคิดที่สำคัญคือ อย่าประมาท
ฟังแล้วเราก็ต้องเอามาเตือนตัวเองด้วยนะ อย่าประมาท
จริง เพราะว่าการใช้ชีวิตของคนปัจจุบันนี้ ต้องบอกว่าประมาทมาก

หลังจากนั้นก็เป็นช่วง relax คือสันทนาการพอดี
ในโครงการนี้มอบหมายให้น้องๆปีหนึ่งจัดสันทนาการ
มองดูแล้วก็รู้สึกว่า น้องๆเก่งนะ
เก่งมากเลย คิดกิจกรรมมาค่อนข้างดี
เล่นแล้วน้องเล่นด้วย เล่นแล้วฮา
แต่ก็มีบางอย่างเกินไปบ้าง
อันนี้เราๆปีสามเห็นแล้วก็มาจดๆกันไว้

พอตอนประชุมประจำวัน
เราก็เอาสิ่งที่เราพบมาพูดกัน
เอาจริงๆนะไม่อยากจะทำเลย เพราะมันคือการดุน้อง คือการติน้อง แต่ว่าเราไม่ได้ประจานนะ
คุยกับเพื่อนว่าไม่อยากทำเลย มาวันเดียว มาถึงก็เหมือนมาจับผิดน้อง
ในสิ่งที่น้องตั้งใจทำ
แต่เพื่อนบอกว่า
มันก็ต้องทำนะ
จริงละ มันก็ต้องทำ ปี1 ต้องโดนเตือนบ้าง ให้เข้ารูปเข้ารอย
ก็ต้องเตือนกันแบบผู้มีการศึกษานะ
คือพูดกันด้วยเหตุด้วยผล
ไม่รู้เหมือนกันว่าน้องเค้าจะรับฟังแล้วเอาไปทำตามรึเปล่านะ
แต่อยากให้น้องๆเข้าใจจังเลย
ว่าสิ่งที่ทำมันมีผลมากนะ
ไม่ว่าจะพูดอะไร ทำอะไร
เพราะนั่นคือทำในนามของ ม.เกษตร นะ

หลังจากประชุมเสร็จก็ไปทานข้าวกัน
พี่ๆจัดหนักมากกกก 555
พาไปร้านสวยมากเลย
เล่าอะไรให้ฟังเยอะแยะ
เพื่อนๆน้องๆพี่ๆที่ไปทานข้าวกัน อันนี้แค่โต๊ะเดียวนะ มีโต๊ะอื่นอีก :]

พี่ๆบางส่วนแนะนำตัว
ไม่น่าเชื่อนะ
คงมีไม่กี่ชมรมหรอก
ที่คนทีจบไปแล้วเกือบ 20 ปีจะกลับมา
ไม่ได้กลับมาคนเดียวนะ
มากันเยอะมากเลย เกือบทุกรุ่นเลย
วันนี้ไปกินกันประมาณ 40 คนได้
มีรุ่นพี่บางคนจบไปก็ไปเป็นอาจารย์อยู่ที่ภาคเคม
อยากมีอาจารย์ที่ภาคเป็นรุ่นพี่ชุมนุมบ้างจัง ^^
เคยเกิดคำถามในใจเหมือนกันว่า
ทำไมรุ่นพี่เค้าถึงกลับมา มากมายขนาดนี้?
เพราะว่าเขารักเหรอ
หรือว่าเขาประทับใจ
อาจจะเพราะว่าเป็นความสุข
โครงการดีๆแบบนี้
ให้อะไรที่ไม่หวังผลตอบแทน
และเกิดผลกระทบในมุมกว้าง
ฟังพี่เค้าเล่าแล้วพบว่ามันเกิดผลกระทบในมุมกว้างมาก
มีผลกระทบต่อประเทศชาตินะ
ข้อนี้เราก็เคยคิดอยู่ว่า
เพราะว่าชาติจะพัฒนาได้
คนต้องพัฒนา
ทางหนึ่งที่คนจะพัฒนาคือพัฒนาการศึกษา
และสิ่งที่โครงการเราให้น้องมันมากกว่าการศึกษาในตำรา มากกว่าการให้กำลังใจในการเรียน
มันให้การเป็นตัวอย่าง
ตัวอย่างในการทำอะไรให้คนอื่นโดยไม่ได้หวังอะไรตอบแทน
อยากให้น้องๆโครงการได้ซึมซับตรงนี้ไปเหมือนกัน
เพราะความรู้เป็นเหมือนมีด
จะเอาไปทำกับข้าวก็มีข้าวกิน ดำรงชีวิต
จะเอาไปฆ่าคนคนก็ตาย ทำลายชีวิต

เคยมีเพื่อนที่ภาคคนหนึ่งถามเหมือนกันว่าชุมนุมวิชาการทำอะไร
ก็ตอบไปว่าสอนหนังสือ
เพื่อนก็บอกว่างี้รวยเลยสิ
ก็บอกไปว่าไม่ได้ตังค์
เพื่อนก็บอกมาประโยคหนึ่ง ฟังแล้วจุกเลย
"ไม่ได้ตังค์อะทำทำไม"

ไปไม่เป็นเลย ไม่รู้จะพูดยังไง 555
ฟังแล้วความรู้สึกหนึ่งที่เกิดขึ้นด้วยก็คือสงสารนะ
ว่าเขาจะไม่เคยได้รัรบความรู้สึกแบบที่เราได้เลย
ความรู้สึกที่น้องโครงการเดินมาขอบคุณ คือเสียงที่น้องพูดออกมามันคือขอบคุณจริงๆ
หรือว่าการที่น้องมาบอกว่าเข้ามหาลัยได้แล้วนะ
หรือว่าแค่การที่น้องเค้าตั้งใจฟังที่เราสอนในคาบก็ตาม

แต่จะว่าเพื่อนก็ไม่ได้
มันอยู่ที่คนคิด ความสุขของคนเราก็แตกต่างกันไป
ก็อยู่ที่มุมที่มอง

4 comments:

  1. ปัน เธอทำให้เรารู้สึกเสียดายมายที่ปี 1 ไม่เข้าชมรมเน่

    เราน่าจะได้แรงบันดาลใจอะไรจากปัน แล้วการเรียนเราคงไปตกต่ำถึงขนาดนี้ TwT

    เก่งมาก สุดยอดไปเลยย เจ๋งจริงๆ

    ReplyDelete
  2. โรตีอัพเกรด blogger แล้ว เย่!!! (ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องใน entry เลย - -)

    มันแล้วแต่คนมองอ่ะโรตี ทำไงได้ในเมื่อ summum bonum แต่ละคนไม่เหมือนกัน ดังนั้นของหรือการกระทำอย่างเดียวกันย่อม "เติมเต็ม" จิตใจแต่ละคนได้ไม่เท่ากันอยู่แล้ว

    ReplyDelete
  3. ^^ เป็นวันที่มีความสุขมากๆเลยละ

    ReplyDelete
  4. คิดถึงบรรยากาศแบบนั้นจังครับ

    ReplyDelete